MAIIAM-Museum-of-Art-news-site

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MAIIAM Museum มีความเป็นมาอย่างไร

ความรู้ และการศึกษา สามารถเกิดขึ้นได้ ในหลาย ๆ ทางนอกเหนือไปจากการเรียนในห้องเรียน และการเรียนในอินเตอร์เน็ตแล้ว ในวันหยุดการเดินออกไปเที่ยว พร้อมได้ศึกษาความเป็นมาเกี่ยวกับงานศิลปะ หรือศึกษาเทคนิคที่ศิลปินใช้รังสรรค์งานศิลป์ต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หนึ่งในจังหวัดอันมีรากเหง้าความเป็นมาของวัฒนธรรมที่น่าสนใจอย่างเชียงใหม่ ก็มีสถานที่เก็บรวมรวมงานศิลป์ ซึ่งรอให้คุณได้ไปสัมผัสด้วยตา

MAIIAM Contemporary Art Museum เชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของผลงานร่วมสมัย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเมือง หรือนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่น ๆ ต่างก็สามารถเข้ามารับชมแรงบันดาลใจดี ๆ และเก็บเอาความประทับใจไปได้ ผ่านผลงานศิลปะอันน่าสนใจเหล่านี้ ซึ่งทุกผลงานมาจากฝีมือของศิลปินชาวไทยชื่อดังทั้งสิ้น มีให้เลือกชมหลากหลายสไตล์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมเชิญชวนผู้คนที่สนใจเข้ามาเสพผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งไม่ได้รวบรวมเฉพาะผลงานศิลปะของศิลปินชาวไทยเท่านั้น แต่ยังรวบรวมผลงาน วัฒนธรรม และแนวคิดของประเทศอื่น ๆ มาไว้รวมกันด้วย เน้นผลงานที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณจะได้เปิดหูเปิดตาเพียงแค่มาชมสถานที่เดียว สำหรับผลงานเหล่านี้ ได้รับการส่งต่อมาจากครอบครัว บุนนาค-เบอร์เดอเลย์ ซึ่งได้สร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่แห่งนี้ขึ้น

news-site-MAIIAM-Museum-of-Art

MAIIAM Museum เชียงใหม่

โดยครอบครัวของ คุณฌอง มิเชล เบอร์เดอเลย์ มีความต้องการแสดงออกอย่างแรงกล้า พร้อมแบ่งปันคอลเลคชั่นงานศิลป์ส่วนตัว ซึ่งสะสมมาอย่างต่อเนื่องถึง 30 ปี ให้ผู้คนสามารถเข้ามาสัมผัสได้ด้วยตาของตนเอง และจะได้ประจักษ์ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกมาจากผลงานเหล่านี้ ซึ่งศิลปินต่างทุ่มเทชีวิต และจิตวิญญาณของตนใส่เข้าไปในผลงานเหล่านี้อย่างเต็มกำลัง โดยเลือกสร้าง MAIIAM Museum ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นเมืองอันมีเสน่ห์ชวนหลงใหล อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของศิลปินจำนวนมาก

เพียงแค่สถานที่ตั้งของ MAIIAM Museum ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เพราะเลือกใช้โกดังเก่านำมาดัดแปลงให้เป็นโรงเรือนอันอัดแน่นไปด้วยผลงานศิลปะ และตั้งอยู่บนอาณาเขตกว่า 3,000 ตารางเมตร มีการวางแผนจัดวางรูปแบบของอาคาร ให้มีความโดดเด่นผสมผสานเข้ากับทันความสมัยได้เป็นอย่างดี บริเวณอาคารด้านหน้าวางแนวคิดต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการดึงดูดสายตา มีการตกแต่งด้วยกระจกแผ่นขนาดเล็กวางเรียงซ้อน ๆ กันอย่างเป็นระเบียบ ในยามแสงสุริยันสาดส่องก็จะเกิดการสะท้อนอย่างสวยงาม ราวกับอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้

ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนที่น่าสนใจ

การแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในที่นี้ คือ บริเวณชั้นล่างจัดเป็นหอนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งจะมีการสลับสับเปลี่ยนผลงานเรื่อย ๆ ห้องฉายภาพยนตร์ขนาดกลาง พร้อมทั้งมุมเผยประวัติความเป็นมาของตระกูลเก่าแก่ บุนนาค ส่วนบริเวณชั้นบนจัดเป็นพื้นที่นิทรรศการถาวร มีขนาดกว้างขวางกว่า 1,300 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องนิทรรศการขนาดเล็กอีก 2 ห้อง และความน่าสนใจที่จะมองข้ามไปไม่ได้ คือ พื้นที่บริเวณตรงกลางของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นลานอเนกประสงค์ นำมาปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะทั้งแบบในร่ม หรือกลางแจ้งก็ตาม เหมาะแก่การจัดงานกิจกรรมเพลิดเพลินจำเริญใจ เช่น งานเปิดนิทรรศการใหม่ ๆ งานการแสดงสด รวมทั้งงานกิจกรรมทางการศึกษา ตลอดจนกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังจบครบในแห่งเดียว เพราะมีทั้งร้านอาหารรสเลิศ อิ่มท้องระหว่างการเดินชม และร้านขายของที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์ด้วย ภายในยังแบ่งออกเป็นหลายโซน วันเดียวเดินไม่รู้เบื่อ

ค่าบริการ

ผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท, นักเรียน/นักศึกษา ราคา 100 บาท และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด

เปิดบริการวันจันทร์ วันพุธ-อาทิตย์ หยุดวันอังคาร เวลา 10.00-18.00 น.

Orsay-Museum

ประวัติของพิพิธภัณฑ์ออร์แซ ศิลปะประจำฝรั่งเศส

ต่างประเทศเวลาเค้าจะรื้ออะไรแต่ละอย่างนั้น ถ้าเป็นอาคารของรัฐเค้าจะมีการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันก่อน บางครั้งก็รื้อทิ้งไป แต่บางครั้งก็ไม่ได้รื้อทิ้งไป แต่ใช้การปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบอื่นแทน พิพิธภัณฑ์บางแห่งก็เกิดมาจากแนวคิดนี้ด้วยเหมือนกัน พิพิธภัณฑ์ออร์แซ เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนความรุ่งเรืองของประเทศฝรั่งเศสในยุคหนึ่งด้วยเหมือนกัน พิพิธภัณฑ์ออร์แซ คืออะไร เราจะมาเล่าเรื่องราวของเค้าให้ฟังกัน

Orsay-Museum-photo

พิพิธภัณฑ์จากสถานีรถไฟ

ตามประวัติพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ถือว่าเก่าแก่ เต็มไปด้วยเรื่องน่าสนใจเหมือนกัน อย่างแรกเลย พิพิธภัณฑ์นี้เดิมทีเป็นสถานีรถไฟมาก่อนชื่อว่า สถานีรถไฟออร์แซ แต่ไม่ได้สร้างมาใหญ่มากพอทำให้พอเศรษฐกิจขยายตัว ประชาการ เมืองขยายตัวตาม ทำให้สถานีรถไฟแห่งนี้เริ่มมีพื้นที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแล้ว นั่นทำให้สถานีรถไฟแห่งนี้ถูกลดการใช้งานลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะต้องมีการหารือเพื่อทุบทิ้ง แต่ทางรัฐบาลไม่ยอมรับแนวคิดนี้ พร้อมทั้งเสนอให้ปรับเป็นโรงแรม กับ พิพิธภัณฑ์เพื่อทำเป็นแห่งท่องเที่ยวแทน  ปัจจุบันแม้จะไม่ได้เปิดเป็นสถานีรถไฟแบบเต็มตัว แต่ก็ยังเป็นสถานีย่อยของรถไฟดินแทน สถานีนี้ชื่อว่า RER ในปัจจุบัน

จากสถานีรถไฟมากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ นั่นทำให้เกิดความแปลกขึ้นในห้องโถงจัดแสดง ห้องโถงดังกล่าวจะเป็นห้องที่มีความยาว  แล้วมีกำแพงที่ติดนาฬิกาโบราณไว้สูงเพื่อให้คนดูเวลาเที่ยวรถไฟจากนั้นกำแพงก็จะโค้งเข้าหากันบนเพดาน นั่นทำให้ตรงกลางห้องโถงกลายเป็นสภาพพื้นที่อันแปลกตากจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะอื่นแบบคาดไม่ถึง ด้านล่างที่เป็นรางรถไฟเดิม จะถูกดัดแปลงให้เป็นห้องเล็กๆ แต่ละห้องเพื่อให้เราเข้าไปดูงานศิลปะแต่ละโซนที่จัดไว้ให้ได้อย่างเป็นสัดส่วน

Orsay-Museum-pic

พิพิธภัณฑ์เปรียบเทียบ

อีกหนึ่งสาเหตุที่มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ออร์แซ แทนที่สถานีรถไฟเดิมก็เพราะว่า ทางการรัฐบาลต้องการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้เป็นคู่เปรียบเทียบกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสด้วย แม้จะบอกว่าเปรียบเทียบกัน แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีข้อแตกต่างหลายอย่าง เห็นได้ชัดจาก งานศิลปะที่นำมาจัดแสดงมีมากกว่า 2,000 ชิ้น แม้ว่าจะมีภาพงานเขียน ภาพวาดอยู่ แต่สิ่งที่เน้นมากกว่าจะเป็นเรื่องของรูปปั้น งานลอยตัวมากกว่า

Orsay-Museum-image
งานศิลปะที่ต้องห้ามพลาด

ด้านในพิพิธภัณฑ์ออร์แซเองก็มีจุดเด่นทางด้านงานศิลปะที่ควรจะเข้าไปชมให้ได้เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นงานปั้น งานรูปหล่อ แต่งานวาดภาพเค้าก็มีด้วย ถ้าหากไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เพื่อดูงานของ ลีโอนาโด ดาร์วินชี การไปพิพิธภัณฑ์ออร์แซ ก็ต้องไปเยี่ยมชมอีกหนึ่งศิลปิน จิตรกรระดับโลกที่ชื่อว่า แวนโก๊ะนั่นเอง ภาพเขียนของแวนโก๊ะถือว่าเป็นตัวแทนผลงานการวาดภาพศิลปะยุคอิมเพรสชั่นนิสม์เฟื่องฟูได้เลย ผลงานที่เราไม่อยากให้พลาด ชื่อว่า Starry Night Over the Rhone, The Starry Night ภาพวาดที่แสดงถึงตอนกลางคืนของเมืองที่ให้อารมณ์แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน ยิ่งภาพหลังถือว่าเป็นภาพสร้างชื่อของแวนโก๊ะเลยก็ว่าได้ ภาพเขียน Self-portait ภาพพรอตเทรตที่เป็นตำนานของแวนโก๊ะจนถึงเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจของการเขียน,วาดภาพพรอตเทรตในเวลาต่อมา ภาพของชายสูงวัยหันข้างเล็กน้อย ผมสีน้ำตาด หนวดเครารุงรัง แล้วมีลายน้ำด้านหลังจัดว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่เราอยากให้เห็นตัวเป็นๆ มากกว่า  หรือจะเป็ฯภาพเขียน Bal du Moulin de la Galette ของ เรอนัวร์ ภาพนี้ก็จัดว่าสุดยอดเหมือนกัน

ตัวพิพิธภัณฑ์ปิดวันจันทร์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.30 – 18.00 น. เราขอแนะนำให้รีบไปดูตั้งแต่เริ่มเปิดเลย อาจจะดูยาวจนถึงเย็นแล้วออกมาชมทิวทัศน์ของเมืองด้านนอกอีกครั้งหนึ่งกับแม่น้ำเซน รับรองคุ้มเวอร์

Louvre-photo

ประวัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประจำอเมริกา

ในยุโรปหรืออเมริกาสิ่งที่เป็นบริการสาธารณะชนที่เราเห็นได้มากที่สุดอย่างหนึ่งนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์เค้ามีเยอะมาก มีมานานแล้วแตกเป็นหัวข้อย่อยออกไปเยอะแยะมากมายทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ กีฬา ดนตรี ของเล่นเด็ก หากใครชื่นชอบงานศิลปะแล้วหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เราขอแนะนำว่าห้ามพลาดเลย พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของประเทศฝรั่งเศส ที่นี่มีอะไรดี มีเรื่องราวอย่างไรบ้าง

Louvre-Museum-web

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ คืออะไร

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกเลยทีเดียว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมงานศิลปะชิ้นเอกของศิลปิน จิตรกร ชาวฝรั่งเศสหลายคนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งงานภาพวาด ภาพเขียน งานปั้น ขึ้นรูปหล่อ อีกมากมาย ความเก่าแก่ของที่นี่ถือว่าติดทำเนียบระดับโลกด้วย นั่นทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผลงานศิลปะมากมายอัดแน่นอยู่ในนั้น ปัจจุบันเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเยี่ยมชมปีหลายล้านคน

Louvre-Museum-image

เรื่องราวโดยสังเขป

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หากนับประวัติต้นกำเนิดต้องย้อนไปไกลถึงสมัยราชวงศ์กาเปเซียงโน่นเลย แต่เดิมอาคารที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ได้เป็นพระราชวังหลวงมาก่อน พอหมดยุคการปกครองก็เปลี่ยนแปลงไปให้เป็นอาคารแสดงผลงานศิลปะดังกล่าว ต้นกำเนิดของอาคารเหล่านี้เชื่อกันว่าเดิมทีถูกสร้างเพื่อเป็นป้อมปราการตอนคริสต์ศตวรรษที่ 12 แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในประเทศทำให้ต้องปรับให้ ป้อมลูฟวร์ มาเป็นที่อยู่ของราชวงศ์ ก่อนจะปรับอีกครั้ง เมื่อพระราชวังแวร์ซายส์เสร็จ เหล่าราชวงศ์จึงไปอยู่กันที่นั่น ลูฟวร์เลยกลายเป็นที่ชุมนุมของศิลปิน จิตรกร จนมาเป็นแนวคิดเปิดพิพิธภัณฑ์ทางด้านศิลปะในปี 1973

Louvre-Museum-pic

พีระมิด แลนด์มาร์คของพิพิธภัณฑ์

ใครที่เคยดูหนังของแดนบราว เรื่อง รหัสลับดาร์วินชี แลนด์มาร์คที่สำคัญของเรื่องอย่างหนึ่งนั่นก็คือ พีระมิดโปร่งใสของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อย่างแน่นอน พีระมิดนี้จะตั้งอยู่ปากทางเข้าพิพิธภัณฑ์เลย (มันถูกครอบเอาไว้ พอเราผ่านพีระมิดเข้าไปจะมีทางเดินลงพิพิธภัณฑ์ไปชั้นใต้ดิน) มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปแล้ว ซึ่งจริงๆพีระมิดตัวนี้ก็ถือว่าเป็นงานศิลปะด้วยเหมือนกัน ประวัติของมันเกิดขึ้นจากสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อว่า I.M.Pei เค้ามีแนวคิดจะสร้างพีระมิดจากกระจก ซึ่งมันโดนคัดค้านอย่างมากว่าไม่สวย ไม่เหมาะสม เหมือนกับตอนที่ค้านสร้างหอไอเฟลยุคนั้นเลย แต่สุดท้ายก็ลุยสร้างต่อกันมาจนเสร็จเมื่อปี 1988 ปรากฏว่ามันกลายเป็นความแตกต่างที่สวยงามอย่างเรารู้กัน ความเจ๋งของพีระมิดอันนี้ไม่ได้สวยงามจากภายนอกอย่างเดียว พอเราเข้าไปด้านใน เราจะเห็นพีระมิดอีกหนึ่งอันกลับหัวซ้อนอยู่

Louvre-Museum

งานศิลปะระดับโลกที่ควรไปชม

อย่างที่เราพูดกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมงานศิลปะเอาไว้มากมาย บางชิ้นเป็นผลงานที่สืบต้นตอไม่ได้เลย รู้แต่ว่าเป็นงานศิลป์ที่เกิดในช่วงก่อนยุคประวัติศาสตร์เสียอีก แต่งานศิลปะระดับโลกที่เราไม่ควรพลาดเลยก็จะมี ภาพวาดโมนาลิซ่า ภาพวาดหญิงสาวที่เชื่อกันว่าสวยที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา ผลงานจาก เลโอนาโด ดาร์วินชี่ อยากให้ลองไปสบตากับเธอดู แล้วจะรู้ว่าภาพนี้มันมีแรงดึงดูดอันมหาศาลมากเพียงไหน ไม่แปลกที่มันจะถูกยกย่องมากขนาดนั้นเลย  ตามมาด้วยรูปปั้นเทพวีนัส เทพแห่งความงามที่เราอาจจะคุ้นเคยกันดี ในภาพหน้าปกสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่สมัยเรียนหนังสือ คราวนี้เราอยากให้ลองไปดูของจริงด้วยตัวเองว่าจะสวยงามอย่างไร

จากชื่อเสียงของผลงานศิลปะมากมาย ตัวสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อทั้งความสวยงาม แตกต่าง ทำให้การเดินทางไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้นผู้เที่ยวจะต้องวางแผนให้ดีเรื่องการเดินทาง การซื้อตั๋วเข้าชม เนื่องจากคนจะเยอะมาก แต่เชื่อเลยว่าหากได้ไปจริงจะเป็นอะไรที่คุ้มค่าชีวิตที่สุด